อนามัยโลกเตือนให้แต่ละชาติพิจารณาผลข้างเคียงจากวัคซีน

องค์การอนามัยโลกออกมาแจ้งเตือนให้หน่วยงานของแต่ละประเทศพิจารณาทบทวนหลังอังกฤษเตือนประชาชนที่มีประวัติของโรคภูมิแพ้รุนแรงว่าอย่าเพิ่งรับวัคซีนของไฟเซอร์ ส่วนอังกฤษลดเวลากักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วัน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ว่า น.ส.มาร์กาเร็ต แฮร์ริส โฆษกหญิงขององค์การอนามัยโลกแถลงสรุปที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า องค์การอนามัยโลกขอให้หน่วยงานของแต่ละประเทศไปพิจารณาทบทวนเรื่องการรับวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค หลังมีคำเตือนมาจากอังกฤษว่า ประชาชนที่มีประวัติของโรคภูมิแพ้รุนแรงนั้นอย่าเพิ่งรับการฉีดวัคซีนเพราะอาจมีผลข้างเคียง แต่ประชาชนก็ไม่ควรที่จะไปวิตกกังวลมากเกินไป เพราะจะมีวัคซีนอีกหลายวัคซีนออกมาในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งวัคซีนของบริษัทหนึ่งอาจจะยังไม่เหมาะแต่อาจจะมีวัคซีนของอีกบริษัทที่เหมาะสมก็ได้

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อังกฤษเป็นประเทศแรกที่ทำการจัดฉีดวัคซีนปริมาณมากเป็นวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค แต่ต่อมาหน่วยงานสาธารณสุขได้ออกมาเตือนว่าใครที่เคยมีประวัติแพ้ยาหรือแพ้อาหารยังไม่ควรที่จะรับวัคซีน หลังมีเจ้าหน้าที่ 2 คนมีอาการแพ้หลังฉีดวัคซีนไป

รัฐบาลอังกฤษแถลงด้วยว่า อังกฤษจะลดเวลาการกักตัวเองเพราะไวรัสโควิด-19 จาก 14 วันเหลือ 10 วัน มีผลกับผู้ที่สัมผัสติดต่อกับผู้ติดเชื้อในประเทศ และยังรวมถึงผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศด้วย เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.เป็นต้นไป ครอบคลุมพื้นที่ของอังกฤษ สกอตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งการลดเวลากักตัวนี้จะช่วยให้ผู้คนได้กลับมาทำงานและไปโรงเรียนได้เร็วขึ้น ทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัว ส่วนการเดินทางระหว่างประเทศก็จะได้ประโยชน์จากการผ่อนปรนมาตรการนี้และช่วยเหลือสายการบินต่างๆ อีกด้วย